ชีวิตเด็ก ปวช. สาขาเทคนิคคอมพิวเตอร์... (บทความนี้ค่อนข้างยาวนะครับ)

                สวัสดีครับ ผมขอใช้ชื่อแทนตัวเองว่าเจ้าของบล็อคนะครับ บทความนี้เป็นบทความแรกของเจ้าของบล็อคนะครับ ซึ่งบทความแรกนี้เจ้าของบล็อคยังไม่ขอพูดถึงเนื้อหาสาระเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีอะไรให้แนะนำ XD แต่เจ้าของบล็อคก็จะพยายามหาสาระมาเรื่อย ๆ "เนื้อหาต่อไปนี้ จะพูดถึงความเป็นมาประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้น ปวช. ถ้าหากผู้อ่านคิดว่าทำไมต้องรู้ อันนี้เจ้าของบล็อคไม่ห้ามนะครับที่จะไม่อ่านเพราะเจ้าของบล็อคเขียนขึ้นมาเผื่อจะช่วยให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่กำลังศึกษาในระดับอาชีวะศึกษาได้มีแนวทางกัน" 



ตัดสินใจเรียนต่อ ปวช.

                เจ้าของบล็อคขอพูดถึงตั้งแต่ตอนที่เจ้าของบล็อคตัดสินใจจะเรียนต่อ ปวช. เลยแล้วกัน เพราะตอนนั้นเจ้าของบล็อคคิดว่าตัวเองคงเรียนไม่ไหวอีกแล้ว เรียนไปก็มีแต่วิชาที่ไม่ชอบทั้งนั้นเลย = =! สรุปคือเรียนไม่รู้เรื่อง ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าการเรียนอาชีวะนั้นมันเป็นยังไง จนกระทั่งกลุ่มงานวิชาแนะแนวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโควต้าการศึกษาต่อในระดับ ปวช ของสถานบันแห่งหนึ่ง ณ ขณะนั้นเจ้าของบล็อคก็ลองไปอ่านรายละเอียดดู ก็ได้พบว่านี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ!! สามารถเลือกเรียนสาขาวิชาที่ตัวเองชอบได้ โดยปกติแล้วเจ้าของบล็อคจะชอบเล่นคอมฯมาก และชอบมากที่สุดคือวิชาคอมฯ

                หลังจากที่อ่านรายละเอียดแล้วเจ้าของบล็อคไม่ลังเลเลยครับที่จะมาสมัครเรียนต่อในสายอาชีวะ และสาขาที่เรียนไม่ต้องพูดถึงเลยครับต้องเป็นสาขาที่เกี่ยวกับคอมฯแน่ ๆ แต่เอ...มันมีคอมธุรกิจ กับ เทคนิคคอมฯแล้วเราจะเรียนอะไรดีหว่า ยอมรับว่าตอนนั้นยังไม่รู้ละเอียดเกี่ยวกับสาขาที่จะเข้า  เลยสุ่มมาที่เทคนิคคอมฯเลยแล้วกัน และเจ้าของบล็อคก็เลือกไม่ผิดจริง ๆ ครับที่ได้มาเรียนสาขานี้ เอาเป็นว่าเรียนทั้งคอมและก็เรียนเกี่ยวกับเรื่องวงจรด้วยนิดหน่อย


เห่อเด็กใหม่

                เอาละครับหลังจากที่เจ้าของบล็อคได้มาศึกษาต่อในระดับ ปวช. ที่สถาบันแห่งนึงได้เจอสังคมที่แปลกใหม่  ต่างจากโรงเรียนมัธยมอย่างลิบลับเพราะที่นี่เป็นวิทยาลัยเปิด นักศึกษาสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา ใช่ครับถ้าจะหนีเรียนก็ไม่ใช่เรื่องยากเดินออกไปเฉย ๆ ก็ยังได้ แต่ที่วิทยาลัยเค้าเอาจริงเรื่องการมาเรียน หากเวลาเรียนไม่ครบ ส่งงานไม่ครบ กิจกรรมไม่ผ่าน เรียนใหม่ได้อย่างง่าย ๆ เลยครับ

                ตอนที่เจ้าของบล็อคเข้ามาใหม่ จะว่าเหลิง(อาการเห่อตอนได้ที่เรียนใหม่) ก็ได้นะ ติดเพื่อนบ้างละ ติดเกมส์บ้างละ คาบว่างนี่เพื่อนก็ชวนเจ้าของบล็อคเข้าร้านเกมส์เลยครับ ฮ่าา ๆ ๆ ยอมรับว่าติดมาก แต่ตอนนั้นเจ้าของบล็อคก็ไม่ทิ้งการเรียนนะครับ ก็ยังรับผิดชอบแต่ผลการเรียนก็ไม่ดีมากเพราะคงติดเกมส์มากไป ไม่มีสมาธิในการเรียน คิดแต่เรื่องเกมส์ตลอดเวลา ฮ่าา ๆ ๆ ไปกันใหญ่แล้ว ช่วงเทอมแรกนี่เจ้าของบล็อคเป็นเอามากเลยนะเรียนก็ได้แค่เรียนนั้นแหละ สาระในชีวิตประจำวันแทบจะไม่ได้เลย


สิ่งสำคัญคือการตั้งคำถามกับตัวเอง

                จนกระทั่งเจ้าของบล็อคได้ขึ้น ปวช 2 เจ้าของบล็อคเริ่มรู้สึกว่าเพื่อน ๆ ของเจ้าของบล็อคนั้นเกินไปจริง ๆ ชอบเล่นชอบเที่ยวกัน เจ้าของบล็อคได้กลับมานึกว่าทำไมเราถึงมาเรียนที่นี่ เราเลือกเรียนทำไม ใช่ครับเพราะมันเป็นสิ่งที่เจ้าของบล็อคชอบ เจ้าของบล็อคเลยคิดว่าถ้าห้องของเจ้าของบล็อคไม่มีใครสนใจเรื่องเรียนกันแบบจริง ๆ กันซักคน แล้วห้องของพวกเราจะเป็นอย่างไรต่อไปละ? มันเลยกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าของบล็อคเริ่มหาสาระเข้าหัวอยู่เรื่อย ๆ และ อย่างแรกเลยก็คือหาออกฝึกงานในระหว่างที่เรียน เป็นร้านซ่อมคอมนี่แหละครับ เพื่อน ๆ ทั้งหมดในห้องเหมือนเป็นแรงผลักดันให้เจ้าของบล็อคตั้งใจที่จะศึกษาเรียนรู้ เพราะถ้าหากเราไม่รู้แล้วเพื่อนคนไหนจะไปรู้ถ้าเป็นกันอย่างนี้ เจ้าของบล็อคไม่อยากให้ห้องของเราเป็นจุดอ่อน จึงต้องพยายามศึกษากับสิ่งที่ตัวเองชอบมาตลอด

เริ่มฝึกงาน

                ฝึกงานครั้งแรกนี่เจ้าของบล็อคฝึกประมาณเทอมเศษ ๆ ครับเป็นการฝึกงานระหว่างเรียนไปด้วย ฝึกงานจากที่นี่ก็พอซ่อมคอมเป็นบ้างอะไรบ้างอะครับ แล้วก็ไม่ได้ไปอีกเลย  พอฝึกงานเสร็จก็ใกล้จะปิดเทอมพอดี ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่ต้องส่งงานส่งโปรเจคกันเยอะหน่อย ก็เลยพอมีเวลาส่งงานบ้างอะไรบ้าง ผู้อ่านเคยได้ยินคำนี้บ้างรึป่าวครับ "งานกลุ่มทำคนเดียว งานเดี่ยวทำทั้งกลุ่ม" ซึ่งตอนใกล้จะปิดเทอมเจ้าของบล็อคเจอกับตัวก็ไอ่งานกลุ่มนี่แหละครับ ทำให้เจ้าของบล็อคติด มส. (เหมือนติด ร ของมัธยม) เกรดก็จะไม่ออก ต้องแก้อีกทีตอนเปิดเทอมครับ ฮ่าา ๆ ๆ ได้เหนื่อยตลอดเลย

                พอปิดเทอมแม่ก็ชวนเจ้าของบล็อคไปฝึกงานที่ ที่ว่าการอำเภอท่าม่วงครับ อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ทำงานอยู่ในหน่วยงานสัสดี ฝึกงานนี้ได้เงินแล้วก็ไม่เหนื่อยมาก แต่เจ้าของบล็อคก็ยังไม่ชอบอยู่ดีเพราะได้แต่ทำเกี่ยวกับเอกสาร อยากได้อะไรที่แบบลุยบ้างไรบ้าง (จริง ๆ ก็อยากเลือกฝึกครับ แต่แม่แนะนำให้มาก็เลยลองมาทำซัก 2 เดือนดู) พอจบฝึกงานก็กลับมาเรียนตามปกติ.. 

เมื่อฝึกงานบ่อยขึ้นทำให้เห็นว่าเราเหมาะกับงานที่ทำมากแค่ไหน

                เอ้าา!! อยากบอกว่าตอนนี้อยู่ ปวช 2 เทอม 2 กันแล้วครับเร็วมากเลย ไวจริง ๆ เลย เวลาเนี่ยย!! พอกลับมาเรียนได้ซักเดือน เจ้าของบล็อคก็ออกตามหาที่ฝึกงานอีกละ ฮ่าา ๆ ๆ หาไม่หยุดซักที และก็ได้มาอยู่ร้านซ่อมคอมอีกเหมือนเดิมครับ แต่ที่นี่แนะนำอะไรดีมาก ๆ เลย ปกติถ้าเกิดมีปัญหาเกี่ยวกับเมนบอร์ดร้านที่เจ้าของบล็อคเคยไปฝึกงานมาเขาจะเสนอลูกค้าให้เปลี่ยนเมนบอร์ดทันที ทั้ง ๆ ที่แค่ ซี บวมไม่กี่ตัว (ซี หรือ ตัวเก็บประจุในวงจรอิเล็กทรอนิกส์) ซึ่งร้านที่เจ้าของบล็อคมาฝึกงานนี้ พี่เขาก็สอนเจ้าของบล็อคบัดกรีเปลี่ยนซีด้วยเลยครับ จริง ๆ ก็หลาย ๆ อย่างที่เขาช่วยสอนนะ พวกวงจรต่าง ๆ ที่ช็อตก็ช่วยเจ้าของบล็อคสอนซ่อมด้วย อยู่ที่นี่ดีมากจริง ๆ

                แต่สุดท้ายที่ฝึกงานนี้ก็ยังไม่ตอบโจทย์เจ้าของบล็อคอยู่ดีครับ เพราะต้องมานั่งรอลูกค้า ว่าวันนี้จะมีใครเอามาซ่อมหรือเปล่า ต้องอยู่กับที่ ทำงานที่เดียว เวลาจะทำงานก็ต้องรอลูกค้าอะครับ เจ้าของบล็อคเลยต้องหาที่ฝึกงานใหม่ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ก่อนจะขึ้น ปวช 3 และสุดท้ายนี้เจ้าของบล็อคก็ได้ฝึกงานบริษัทครับ ซึ้งตอนนี้เจ้าของบล็อคกำลังสนใจจะเขียนโปรแกรม ต้องบอกก่อนว่าเจ้าของบล็อคเคยเรียนตอน ม.2 เรียนถึงแค่ if else loop ประมาณนี้มั้งครับ แล้วก็มาศึกษาต่อที่บริษัทนี้เป็นบริษัทเกี่ยวกับด้าน Security (ความปลอดภัยในระบบเครือข่ายอะไรประมาณนี้)


จุดเริ่มต้นของเจ้าของบล็อก

                เมื่อถึงเวลาเริ่มฝึกงานในสถานที่แห่งใหม่ซึ่งเป็น บริษัท Security ชื่อดังในวงการ สิ่งแรกที่คิดคือ เจ้าของบล็อคคงได้มีโอกาสเรียนรู้งานมากมายที่เขาทำกันจริง ๆ มีโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ ที่คอยแนะนำ แต่จริง ๆ แล้ว งานทุกอย่างของที่นี่ต้องใช้ google ในการทำงานทั้งสิ้น ต้องศึกษาค้นคว้าหาวิธีเอง คือต้องบอกก่อนว่าจากที่เจ้าของบล็อคเคยมีคนสอนคนแนะนำมาตลอด จนมาฝึกงานที่บริษัทนี้เจ้าของบล็อคต้องใช้ google เท่านั้น  ในการทำงานต่าง ๆ ไม่รู้ก็ถาม google ครับ

                เจ้าของบล็อคก็ได้อะไรเยอะจากรุ่นพี่ที่ไปฝึกงานด้วยกัน พี่ ๆ เขามีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้นเลย เจ้าของบล็อคก็พยายามฝึกเขียนโปรแกรมไปเรื่อย ๆ โดยได้คำแนะนำจากรู้พี่ว่าต้องศึกษาอะไรบ้าง คอยมีรุ่นพี่เป็นแนวทางให้แต่ไม่ได้สอนนะ จนวันหนึ่งครับ ทางบริษัทได้ให้รุ่นพี่นั้นลองเล่นบอร์ด ไมโครคอนโทลเลอร์ มันมีชื่อเรียกว่า  Raspberry-pi นั่นเอง ตอนที่เจ้าของบล็อคดูรุ่นพี่กำลังทดลองบอร์ดตัวนี้ เจ้าของบล็อคก็รู้สึกสนใจมาก ๆ ลองขอรุ่นพี่เล่นบ้าง โดยลองเขียนโปรแกรมง่าย ๆ เพื่อสั่งการพวกมอเตอร์ต่าง ๆ ให้ทำงานตามที่เราเขียนโปรแกรมควบคุมลงไป มันสนุกมาก ๆ คิดไว้ในใจนี่แหละใช่เลยสิ่งที่เหมาะกับตัวเราจริง ๆ เพราะด้วยความที่ทำแล้วสนุก และเวลาทำได้ก็มีความสุขมาก ๆ

                เรื่องราวจากที่นี่มันเข้มข้นมากครับ แต่ขอลัดไปตอนฝึกงานใกล้จะจบก่อนก็แล้วกัน เจ้าของบล็อคคุยกับรุ่นพี่ไว้เกี่ยวกับโปรเจคจบ ปวช 3 ของเจ้าของบล็อคครับ คือตอนนั้นเจ้าของบล็อคดันไปดูโปรเจ็คที่เขาใช้โทรศัพที่เป็น Android สั่งการเจ้าตัว Raspberry-pi ให้ทำงานผ่าน bluetooth และนี่ละครับที่เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาการเขียน Android ของเจ้าของบล็อคเลยก็ว่าได้ และพอตกลงกันเรื่องโปรเจคจบกับรุ่นพี่ไว้แล้ว เจ้าของบล็อคทิ้งท้ายไว้กับรุ่นพี่ครับว่า "ถ้าเจอกันครั้งหน้า จะต้องเก่งกว่านี้ให้ได้" คำนี้เหมือนเป็นคำปฏิญาณเลยครับ จริง ๆ ระหว่างฝึกงานอยู่ที่นี่เจ้าของบล็อคก็หาบริษัทที่จะฝึกงานใหม่ในระดับ ปวช 3 ไว้แล้ว นั่นก็คือบริษัทปิงปองซอร์ฟครับ หรือที่รู้ ๆ กันในวงการคือ javathailand.com 



ฝึกงานที่สุดท้าย จุดเริ่มต้นของการเขียนโปรแกรมรถบังคับ

                ในภาคเรียนที่ 1 ของระดับชั้น ปวช 3 นั้นเขาจะให้ฝึกงานทั้งเทอมเลย และเจ้าของบล็อคก็ได้เลือกมาฝึกที่ javathailand.com ซึ่งขณะที่เจ้าของบล็อคกำลังเขียนบทความอยู่นี้ ก็กำลังอยู่ระหว่างฝึกงานที่นี่อยู่ครับ อีกเดือนเดียวก็จบฝึกงานแล้ว

                พอเจ้าของบล็อคได้มาฝึกงานวันแรกสิ่งที่พี่กบ CEO javathailand.com บอกเลยก็คือจะเน้นให้ศึกษาเองครับ อยากศึกษาอะไรก็ศึกษาเลย google อย่างเดียว ใช่ครับสิ่งแรกที่เจ้าของบล็อคศึกษาก่อนเลยก็คือภาษา java ครับจากที่เคยเขียนแค่ภาษา c กับ python นิดหน่อยตอนที่เล่น raspberry-pi ก็ได้มาลองเขียนภาษา java ดู เจ้าของบล็อคใช้เวลาศึกษาตั้งแต่พื้นฐานจนถึง oop (เป็นการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ) ก็ปาไปอาทิตย์นึง จากนั้นก็เริ่มเขียน App android เลยครับ

                พอหัดลองเขียน App นู้นทำนี่ได้เดือนนึง เจ้าของบล็อคก็ตัดสินใจสั่งตัวบอร์ด Arduino มา ซึ่งเจ้าของบล็อคสั่งมาเป็นแบบชุด kit เอามาหัดเล่นพร้อมกับ module bluetooth spp ด้วยครับ เพราะมันคือเป้าหมายของการศึกษา app อยุ่แล้ว และเจ้าของบล็อคก็ใช้เวลาเล่นเจ้าตัว arduino อยู่อาทิตย์นึง จากนั้นก็ได้ไปเข้าคอร์ดอบรม arduino ที่กรุงเทพฯ เพื่อเสริมความรู้ครับ พอจบจากอบรมได้ประมาณ 2 วัน เจ้าของบล็อคก็สามารถเขียน app ควบคุมเจ้า arduino ผ่าน bluetooth ได้ครับ และเมื่อพอเขียนได้เท่านั่นก็เป็นจุดเริ่มของการทำโปรเจคจบ ซึ่งผลงานต่าง ๆ ระหว่างการทำ โปรเจคเจ้าของบล็อคจะทำให้ติดตามกันต่อไปครับ


สรุปสิ่งที่ได้

  • สิ่งแรกที่อยากให้ผู้อ่านสังเกตุเลยก็คือ อย่าหยุดเรียนรู้ครับ การที่เราอยากรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ใช่ว่าอยู่เฉย ๆ แล้วเราจะรู้ได้ เจ้าของบล็อกใช้เวลาประมาณ 2 ปี ในการค้นหาตัวเอง ผ่านการฝึกงาน มันก็ถือว่านาน แต่ก็คุ้ม
  • ความรู้มีอยู่รอบตัว ทุกวันนี้เจ้าของบล็อกฝึกงานน้อยลง เพราะสิ่งสำคัญของการเรียนรู้คือ เรารู้วิธีหาความรู้ เมื่อเรารู้ ก็ไม่จำเป็นต้องฝึกงาน ก็สามารถศึกษานู้นนั่นนี่ได้ สิ่งที่เจ้าของบล็อกหายถึงก็คือ internet นั่นเอง
  • ทำงานในสิ่งที่เรารักมันมีความสุขและสนุกได้ตลอดเวลา
  • เวลาที่เสียไป 2 ปี ไม่ใช่เวลาที่เสียเปล่า แต่มันทำให้เจ้าของบล็อกได้เรียนรู้ สิ่งใหม่ ๆ เพื่อเป็นทักษะติดตัวพื้นฐาน เช่น การซ่อมคอม การเดินสายแลน การออกแบบ งานเอกสาร งานราชการ พูดง่าย ๆ เมื่อเวลาทำงานจริง เราจะรู้งาน

                จบแล้ว เป็นเรื่องที่ยาวมากแต่ก็ยังไม่ละเอียดที่สุด ยังไงประสบการณ์ต่าง ๆ ก็จะให้ได้อ่านในบทความต่อไป ซึ่งก็ปน ๆ กันไปกับสาระบ้างครับ ขอบคุณสำหรับท่านผู้อ่านที่อ่านมาถึงนะจุด ๆ นี้ด้วยนะครับ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกเหมือนกันที่ได้เขียนบทความแบบนี้ และจะพยายามทำบทความที่เป็นเนื้อหาสาระดี ๆ ให้ได้อ่านกันนะครับ

               


ความคิดเห็น

Unknown กล่าวว่า
เยสสโด้ good jop
Unknown กล่าวว่า
อ่านจนจบฮ่าๆ พี่คับเเล้วปี 2 ได้เรียนเกี่ยวกับอะไรมั้งคับ
Team กล่าวว่า
@kunjames momo ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้า ปวช ปี 2 จะมีเรียนอิเล็กนิดหน่อย เรียนเรื่องเคลื่อน ส่วนคอมก็มีเรียนนะ แต่อาจารย์ไม่มาสอน = =
PHORKUNG กล่าวว่า
พี่ครับ ผมพึ่งมาเห็นน่ะครับอยากทราบว่าปวชหรือเทคนิคนี่ สาขาคอมมีสาขาอะไรบ้างหรอครับ
Unknown กล่าวว่า
เป็นเเรงบันดาลใจที่ดีมากเลยค่ะพี่
Unknown กล่าวว่า
จะเข้าปวช.เทคนิคคอมพิวเตอร์พอดีเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับแนวทางและความรู้นะคะ มีประโยชน์มากๆค่ะ
Unknown กล่าวว่า
เดียวตามไป
Unknown กล่าวว่า
ปวช ของเราทำไมไม่เหมือนกันเรียนปีครึ่ง ฝึกงานปีครึ่ง เขียนภาษาซีไม่ได้เลย ครูสอนบ้างไม่สอนบ้างเพราะงานยุ่งตลอด เหนื่อย
Unknown กล่าวว่า
ถ้าจะเริ่มเรียนต้องมีพื้อฐานไรบ้างครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ว่าด้วยเรื่องหน่วยความจำ สิ่งที่หลายคนมองข้าม : รู้จักกับ Memory

คณิตศาสตร์กับโปรแกรมมิ่งมันเป็นยังไงนะ ตอนที่ 1 เกริ่นพีทาโกรัส

Pointer กับตัวแปร Array นะจ๊ะ.. [Back to basic แต่ไม่ basic]